7 วิ ธีเลี้ยงลูกให้เชื่อฟัง ไม่ต่อต้าน ในวันที่แม่เป็นคนขี้บ่น

วันนี้เราอย ากที่จะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้วิธีการเลี้ยงลูกให้ลูกเป็นคนไม่ต่อต้าน กับบทความ 7 วิ ธีเลี้ยงลูกให้เชื่อฟัง ไม่ต่อต้าน ในวันที่แม่เป็นคนขี้บ่น ไปดูกันว่าการเลี้ยงลูกให้เป็นคนไม่ต่อต้าน และไม่ดื้อนั้นสามารถทำได้อย่ างไร

เวลาที่ลูกของเราทำผิด สิ่งที่พวกเขากลัว ก็คือ การถูกพ่อแม่ตำหนิ ต่อว่าอย่ าง รุ น แ ร งและถูกลงโทษ สิ่งเหล่านี้จะยิ่งทำให้ลูกๆ ต่อต้านเรามากยิ่งขึ้น ดังนั้นพ่อแม่สมัยใหม่ควรรู้จักวิธีสอนเขาด้วยเหตุผล มากกว่าการใช้อารมณ์ ไม่เช่นนั้นลูกของเราก็จะกล า ยเป็นคนที่ใช้แต่อารมณ์ไม่ฟังเหตุผลเช่นกันและ 7 คำถามเหล่านี้จะช่วยให้ลูกเชื่อฟังเรามากยิ่งขึ้น

1 ห นูตัดสินใจได้ไหมว่าเราควรทำ อ ย่ างไรดี

เมื่อวิเคราะห์เรื่องราวและผลที่ต ามมา ครบหมดแล้ว ลูกจะเลือ กวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดออ กมาจนได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ สิ่งที่เร า ค าดเอาไว้แต่เราต้องเคารพในการตัดสินใจของลูก เพราะถ้าเราพูดกลับไปกลับมาจะยิ่งทำให้ลูกไม่เชื่อใจและไม่อย ากจะปรึกษาเราอีกเลย

2 ห นูอย ากให้พ่อแม่ทำอะไรดี

หากลูกเอ่ยปาก ให้พ่อแม่ช่วยอะไรเขาสักอย่ าง คนเป็นพ่อแม่ ต้องสนับสนุนและช่วยเหลือลูกอย่ างเต็มที่ เพราะพลังสนับสนุนของพ่อแม่จะส่ งความเข้มแข็ง ไปถึงลูก ทำให้เขามีความมั่นใจในการทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้น

3 ห นูคิดว่าพ่อแม่ต้องทำยังไงกับความผิดของห นู

เราสามารถหาทางออ ก และคิดแก้ปัญหา ไปพร้อมกับลูกได้อาจจะเป็นการเสนอแนะแนวทางให้เขา ให้เขารู้สึกถึงการร่วมแก้ปัญหาไปพร้อมกับเรา และเราก็ต้องยอมรับความคิดเห็นของลูกด้วยเช่นกัน

4 ถ้าห นูทำผิดอีกคราวหน้าพ่อแม่ต้องทำยังไง

ให้เวลาลูก ให้โอกาสเขาได้ทบทวน ตัวเองให้เขาได้ตัดสินใจและคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองแล้วรอ ดูว่าเขาจะมีความสามารถและมีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาไหมผู้ใหญ่อย่ างเราอาจจะคิดว่าลูกไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเองได้เพราะอายุยังน้อยแต่จริงๆแล้วเมื่อถึงที่สุดลูกๆจะมีความสามารถและวิธีการแก้ไขปัญหาได้เองเหมือนกับสัญช าตญาณในการเอาตัวรอ ดนั่นแหละ

5 ถ้าพ่อแม่ทำแบบนี้แล้วห นูจะเป็นอ ย่ างไร

เราต้องอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงสิ่งที่จะต ามมาหรือผลที่จะต ามมาถ้าแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ลูกพูดมาเพื่อให้เขารู้ว่า ถ้าเขาทำแบบนี้จะได้รับผลแบบนี้เขาจะสามารถรับผลที่ต ามมาได้ไหมการทำแบบนี้จะส่ งผลให้ลูกเชื่อใจเราและเมื่อเขามีปัญหาอะไรเขาก็จะมาปรึกษา

6 เกิดอะไรขึ้นหรือลูก

พ่อแม่ต้องเป็นผู้ฟังที่ดี เปิดโอกาสให้ลูกได้พูดบ้าง ไม่ควรด่วนตัดสินใจด้วยตัวเองแม้ว่าเขาจะทำผิดจริง ก็ต ามเขาอาจยินดี ที่จะยอมรับความผิดของเขาที่สำคัญไม่ควรต่อว่าลูกแต่ให้ทำความเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากมุมมองของลูกเพื่อให้เราได้เข้าใจเขามากขึ้น

7 ห นูรู้สึกยังไงบ้างห นูคิดอะไรอยู่

ปล่อยให้เขาได้แสดงออ ก หรือพูดถึงความรู้สึก ของเขาออ กมาอย่ าเพิ่งเข้าไปสั่งสอนอะไรเขาในเวลาแบบนี้ เพราะเวลาที่คนเรามีอารมณ์ติดค้างอยู่ ต่อให้ใครพูดอะไรไป ก็ไม่ฟัง ไม่รับเข้าหัวอยู่แล้วต้องรอให้อารมณ์เย็นลงซะก่อน

ที่มา stand-smiling, sit-smiling