พ่อแม่ควรสอนลูกอ ย่ างไรให้เติบโตเป็นคน มีจิตใจเข้มแข็ง

เชื่อว่าพ่อแม่หล า ยๆท่านตอนนี้ที่กำลังมีลูกน้อยที่จะเติบโตไปในวันข้างหน้า มีความเป็นกังวลว่าลูกจะเติบโตไปใช้ชีวิตเข้าร่วมสังคมได้หรือเปล่า จะเอาตัวรอ ดได้ไหม วันนี้มีวิ ธีการสอนลูกๆ ทั้ง 13 ข้ อที่จะช่วยเลี้ยงดูให้พวกเขาเติบโตเป็นเ ด็ กที่มีจิตใจที่เข้มแข็งมาฝากกันค่ะ

1.ให้ความกลัวมามีผลต่อ การตัดสินใจ

พ่อแม่มีหน้าที่ต้องปกป้องลูกจากอันตร า ย แต่เราควรให้เ ด็ กได้เรียนรู้ที่จะรับมือ กับความกลัวต่างๆ ด้วย สอนลูกถึงอันตร า ยที่อาจจะเกิดขึ้น สอนลูกให้เข้าใจความรู้สึกกลัว และรับรู้มัน ฝึกให้ลูกได้รู้จักเผชิญหน้ากับความกลั ว อ ย่ าให้ความกลัวมามีผลกับการตัดสินใจในชีวิต โดยที่การตัดสินใจนั้นๆ จะนำพาพวกเขาไปยังชีวิตที่พวกเขาไม่ได้ต้องการอ ย่ างแท้จริง

2.ไม่เอาความรู้สึกผิ ดมากำหนดการตัดสินใจที่ถูกต้อง

การที่เราสอนให้ลูกเป็นคนที่มีจิตใจดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เป็นสิ่งที่ดี แต่ก็ไม่ควรที่จะมากเกินไป จนลืมความความผิ ดชอบชั่ วดี ตัวอ ย่ างเช่น ที่โรงเรียนอาจจะมีเพื่อนที่ไม่ได้ทำการบ้าน มา หรือไม่ได้อ่านหนังสือมาเพื่อมาสอบ และขอลอ กการบ้าน ด้วยความรู้สึกผิ ดของเ ด็ กว่าเพื่อจะโดนครูทำโ ท ษหรือสอบตก เ ด็ กอาจจะยอมทำผิ ดเพื่อให้เพื่อนลอ กการบ้านหรือข้ อสอบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง

3.ให้อำนาจพวกเขาในการตัดสินใจอ ย่ างเหมาะสม

การฝึกให้เ ด็ กกล้าที่จะตัดสินใจ โดยการฝึกให้ได้มีโอกาสในการตัดสินใจในสถานการณ์ต่างๆ จะช่วยให้พวกเขามีความมั่นใจ แต่อ ย่ างไรก็ต าม ก็ควรให้พวกเขาได้รับรู้ถึงหน้าที่และบทบาทของคนในบ้าน เช่น พ่อ แม่ พี่ หรือญาติผู้ใหญ่ ที่เขาควรจะแสดงความนับถือเช่นกัน

4.การสนับสนุนความคิดว่าเราเป็นเหยื่อ

ในชีวิตของมนุษย์ทุกคน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอเรื่องราวที่ไม่เป็นอ ย่ างที่เราคาดหวังไว้ ทุกคนสามารถเจอเรื่องราวนี้ตั้งแต่เป็นเ ด็ ก ไม่ว่าจะเป็นการสอบตก การอ กหั ก หรือแม้แต่เ ด็ กเล็กๆ ที่ล้มลงเมื่อพวกเขากำลังหัดเดินพ่อ กับแม่สามารถฝึกความเข้มแข็งทางจิตใจของลูกๆ ได้

โดยการไม่เข้าข้างลูกและโ ท ษสิ่งแวดล้อมภายนอ ก เปรียบเสมือนพวกเขากำลังเป็นเหยื่อในโลกที่ไม่ยุติธรรมใบนี้ แต่สอนให้พวกเขาเรียนรู้จากข้ อผิ ดพลาด และหาทางจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นอ ย่ างสร้างสรรค์

5.​ให้ลูกเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล

ลูกเป็นศูนย์กลางของจักรวาลลูกเป็นศูนย์กลางของจักรวาลพ่อแม่หล า ยคนที่รักลูก ให้ความรัก ความเอาใจใส่ ต ามใจทุกอ ย่ าง ยิ่งถ้าบ้านนั้นๆ มีเ ด็ กเป็นเพียงคนเดียว บ่อยครั้งเ ด็ กคนนั้นก็มักจะได้ความรักความใส่ใจจากทุกคนรอบตัว เป็นผู้รับโดยลืมที่จะเรียนรู้เป็นผู้ให้ ซึ่งจะมีผลอ ย่ างมากเมื่อพวกเขาโตขึ้น มา เมื่อโลกไม่ได้เหมือนที่บ้านอีกต่อไป การฝึกให้ลูกรู้จักเป็นผู้ให้ รู้จักที่จะสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่นเป็นสิ่งที่ดีมาก

6.ไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบ

ไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูกไม่คาดหวังความสมบูรณ์แบบจากลูก การสอนให้ลูกมีความพย าย าม และทำทุกอ ย่ างด้วยความสามารถอ ย่ างดีที่สุด แต่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ เราสามารถล้มเหลวได้ ผิ ดพลาดได้ จะช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ที่จะรับมือ กับอุปสรรคในชีวิตได้ดีกว่า และมีความสุขกว่า เ ด็ กที่ต้องพย าย ามทำทุกอ ย่ างให้สมบูรณ์แบบ ซึ่งเ ด็ กเหล่านี้จะให้คุณค่ากับตัวเองกับมาตรฐานที่คนอื่นกำหนดให้ตลอ ดเวลา

7.รับผิ ดชอบต่อความรู้สึกของลูกทุกอ ย่ าง

รับผิ ดชอบต่อความรู้สึกของลูกรับผิ ดชอบต่อความรู้สึกของลูก พ่อแม่จำนวน มากอย ากให้ลูกมีความสุข ก็จะพย าย ามสร้างความสุขให้ลูกด้วยวิ ธีการต่างๆ แต่ในโลกของความเป็นจริง ความรู้สึกมีความสุข หรือ ความทุ ก ข์ เป็นความรับผิ ดชอบของบุคคลนั้นๆ ดังนั้นเราควรที่จะสอนให้ลูกมีความสามารถในการจัดการอารมณ์ของตัวเอง และให้พวกเขาเรียนรู้ว่า ความรู้สึกของเราเกิดจากตัวของเราเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับบุคคลอื่นแต่อ ย่ างใด

8.ปกป้องลูกจากความผิ ดหวัง ความเ จ็ บป ว ด

ความผิ ดหวัง ความทุ ก ข์เป็นเรื่องปกติที่มนุษย์ทุกคนจะต้องเจอ แน่นอนคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ไม่อย ากเห็นลูกของตัวเองผิ ดหวังและเ จ็ บป ว ด หล า ยคนพย าย ามปกป้องลูกของตัวเองจากความรู้สึกนี้ ซึ่งไม่เป็นผลดีในระยะย าวของเ ด็ กคนนั้นๆ วิ ธีที่เหมาะสมคือ ฝึกให้ลูกได้เผชิญความผิ ดหวัง แต่อยู่ข้างๆ พวกเขา คอยแ น ะนำและให้กำลังใจในการจัดการกับความรู้สึก และปัญหาที่เกิดขึ้น

9.หาทางลัดให้กับลูกๆ

บางครั้งเวลาที่เราเห็นลูกทำอะไรช้า เราก็อย ากที่จะช่วยเพื่อให้เร็วขึ้นและดีขึ้น แต่เราควรที่จะเรียนรู้ให้พวกเขาได้ทำเอง ได้ฝ่าฟั นอุปสรรค และเรียนรู้การลงมือทำอะไรบางอ ย่ างให้สำเร็จด้วยตัวเอง ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ

10.ฝึกให้ลูกมีความรับผิ ดชอบ

ความรับผิ ดชอบเป็นอุปนิสัยที่สำคัญต่อ การดำเนินชีวิตให้ประสบความสำเร็จ ดังนั้นเราควรฝึกให้ลูกมีความรับผิ ดชอบในกิจก ร ร มหรือหน้าที่ของตัวเองตั้งแต่เล็กๆ เช่น การที่จะต้องทำการบ้านให้เสร็จ การต้องแปรงฟั นก่อนเข้านอน หรืออื่นๆ

11.ฝึกให้ลูกมีวินัยแต่ไม่กลัวต่อ การถูกลงโ ท ษ

การลงโ ท ษ คือ การที่เราทำโ ท ษลูกของเราเมื่อพวกเขาทำผิ ด แต่การฝึกความมีระเบียบวินัยคือ ฝึกให้พวกเขาสร้างอุปนิสัยที่ดีที่ จะมีผลต่อความสำเร็จของพวกเขาเองในอนาคตการฝึกให้เ ด็ กมีระเบียบวินัย อาจทำได้โดยให้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงผลกระทบจากการที่ไม่ทำอะไรบางสิ่งบางอ ย่ าง ซึ่งไม่ใช่การลงโ ท ษ การที่พวกเขาสามารถรู้ถึงผลที่จะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นผลดีหรือผลเ สี ยกับชีวิตของพวกเขาได้ด้วยตัวของพวกเขาเองเป็นเรื่องที่ดี ไม่ใช่เพราะความกลัวการถูกลงโ ท ษ

12.ปกป้องไม่ให้ลูกได้ลองทำผิ ดพลาด

ความที่เรารักลูก เราอย ากมั่นใจว่า ทุกสิ่งที่ลูกทำจะไม่เกิดข้ อผิ ดพลาด เช่น พย าย ามตรวจการบ้าน เช็คกระเป๋านักเรียนว่าลูกเอาทุกอ ย่ างไปโรงเรียนครบ เราควรฝึกให้พวกเขาได้เรียนรู้จากความผิ ดพลาดบ้าง เพื่อให้เขาได้พัฒนา และเรียนรู้วิ ธีการในการจัดการกับปัญหาได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง

13.สอนให้ลูกรู้จักคุณค่าที่แท้จริงของการมีชีวิต

มนุษย์เราตัดสินใจกับเรื่องสำคัญต่างๆ ของชีวิตด้วยคุณค่ากับเรื่องที่เราให้ สอนให้ลูกของเราเห็นคุณค่าของตัวเอง เรียนรู้ที่จะรั ก ษ าคุณค่านั้นๆ เอาไว้ นี่แหละคะวิ ธีทั้ง 13 วิ ธีที่เราจะช่วยให้ลูกของเราโตขึ้น มาเป็นคนที่มีจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ว่าเจออุปสรรคใดๆ ในชีวิต ก็สามารถลุกขึ้นยืนและต่อสู้กับชีวิตได้อีกครั้งโดยที่ไม่ต้องเป็นห่วงอีกต่อไป

ที่มา  forlifeth