การใช้ชีวิตคู่ของคู่ชีวิต ก็เหมือนแตงโมครึ่งซีก

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปเรียนรู้การใช้ชีวิตของคู่ชีวิตหล า ยคู่ที่เป็นเหมือนดั่งแตงโมผ่าครึ่งซีก กับบทความ การใช้ชีวิตคู่ของคู่ชีวิต ก็เหมือนแตงโมครึ่งซีก ไปดูกันว่าทำไมชีวิตคู่หล า ยๆคู่จึงจำเป็นต้องใช้ชีวิตให้เหมือนแตงโมผ่าครึ่งซีก

บ่ายวันหนึ่ง ผมเลิกงานกลับบ้าน ร้อนจนเหงื่อโชกเปิดตู้เย็นดู พบแตงโมสีแดงแช่เย็นอยู่ครึ่งซีก ดูเย็นฉ่ำน่าอร่อยด้วยความหิว และ กระห า ย จึงคว้าแตงโมออ กมากิน จนเรียบต่อมาภรรย าก็กลับมาถึงบ้าน เข้าบ้าน มาก็บ่น กระห า ยน้ำ ร้อน มาก เธอเปิดตู้เย็น และ ชะงัก พร้อมถามหาว่า แตงโมฉันห า ยไปไหน ผมบอ กเธอว่า แตงโมซีกนั้นผมกินไปแล้ว สีหน้าเธอมีแววไม่พอใจ อ ย่ า ง แรง

เธอหยิบกระติกน้ำในตู้เย็นขึ้น มา ก็พบว่าในกระติกแห้งสนิท เธอพูดขึ้น มาทันที เธอ กลับบ้าน มาก่อนทำไมไม่กรอ กน้ำ เข้าตู้บ้างมัวทำอะไรอยู่ ผมฟังแล้วก็รู้สึกโ ก รธบ้าง จึงตอบโต้กลับไปว่า แล้วทำไมอะไรๆ ก็ต้องให้ฉันทำ“เราทั้งสองคนโ ก รธกัน ไม่คุยกันอยู่เป็นอาทิตย์ เช้าวัน เ ส า ร ์ผมกลับบ้านคนเดียวกลับไปหาพ่อ กับแม่ ไปพอเห็นหน้า พ่อ กับแม่ก็ถามว่า ทำไมไม่เห็นเมตต า มาเลยอาทิตย์นี้

เมตต าคือชื่อภรรย าผม ผมเล่าเรื่องที่โ ก รธกันให้ฟัง แม่ฟังแล้วตำหนิผม ทำอะไรไม่ควรห่วงแต่ ตัวเองควรใส่ใจคนอื่นบ้าง ผมไม่เห็นด้วยแค่กินแตงโมไปครึ่งซีก จะอะไรนักหนาพ่อหัวเราะ แกไม่ต้องแก้ตัว พรุ่งนี้วันอาทิตย์ พากัน มากินข้าวที่นี่นะ วันรุ่งขึ้นผมพาภรรย า และครอบครัว มาหาพ่อ กับแม่ พอเข้าบ้าน พ่อก็ใช้ผมไปซื้ อน้ำส้มสายชูพอผมกลับมา พ่อเห็นผมร้อนเหงื่อ ท่วมตัวพ่อก็เลยเอาแตงโม

ครึ่งซีกมาให้ผม แล้วพ่อก็พูดขึ้นว่า แกร้อนซะเหงื่อโชก กินแตงโมดับกระห า ยหน่อยเถอะ แตงซีกนั้นใหญ่ทีเดียว น่าจะหนักราว กิโลสองกิโลได้ผมกินไม่หมดก็เหลือไว้ให้ใครกินด้วย ผมหยิบช้อนแล้วก็ตักกินใหญ่ กินไม่ถึงครึ่งก็พุงกาง หลังกินอา ห ารเที่ยง พ่อเอาแตงโมงอีกซีก ออ กมาวางบนโต๊ะบอ กผมว่า แกดูทีซิว่า มันต่างกันตรงไหน ผมดู อ ย่ า ง ละเอียด ซีกหนึ่งเป็นซีกที่ผมกินไปส่วนอีกซีกที่เหลือก็ถูกกินไป ด้วยพ่อชี้ให้ดูแตงแล้วอธิบายว่า ซีกนี้แกกิน

อีกซีกนี่เมตต ากิน พ่อบอ กแกทั้งสองว่า ถ้ากินไม่หมดให้เหลือไว้ ดูสิว่าเมียแกใช้ช้อนกินยังไง เธอเริ่มตักจากตรงกลาง กินไปถึงขอบครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งไม่ถูกแตะต้อง แล้วดูของแกนี่ แกควักกินเนื้ อตรงกลางจนหมด เหลือขอบไว้ให้คนอื่น ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเนื้ อแตงโมหวานตรงกลาง จากเรื่องเล็กๆ เรื่องนี้ ก็เห็นได้ว่าเมตต ามีใจใหญ่กว่าแกมาก ผมหน้าแดงทันที พ่อพูด อ ย่ า ง

มีความหมายว่า คนสองคน อยู่ด้วยกันไปตลอ ดชีวิต จะมีเรื่องสำคัญอะไรนัก ความรักความใส่ใจ ระหว่างผัวเมียอยู่ที่ไหน มันก็อยู่ในน้ำมันหยดเดียว ข้าวช้อนเดียว น้ำแกงทัพพีเดียว คราวก่อนแกโ ก รธกันเรื่องกินแตงโมแล้วยังมีข้ออ้างมากมาย ทั้งที่เป็นฝ่ายผิด ถ้าเมตต าเป็นฝ่ายกลับถึงบ้านก่อนรับรองว่า เธอจะต้องเก็บไว้ให้แกครึ่งหนึ่ง อย่ าคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กที่ไม่สำคัญ

แต่มันสะท้อนให้เห็นธาตุแท้แตงโมชิ้นเดียวนั่นแหละ ให้ความรู้ในการใช้ชีวิตประจำวัน คนต่อให้เย็นช าแค่ไหน แกค่อยๆ ให้ความอบอุ่น มันจะร้อนขึ้นสักวัน หรือใจที่ต่อให้ ร้อนเท่าไรแกสาดน้ำเย็นใส่ทีละช้อน ทีละช้อนสักวันก็จะทำให้เย็นลงโดยสมบูรณ์คิดดูนะ ถ้าเมตต าเป็นเหมือนแก ทำอะไรไม่เคยใส่ใจ นานวันเข้า แกจะรู้สึกยังไง

คำพูดคำเดียวนั้นปลุกคนตื่นโดยแท้ ผมพบในทันใดว่า รองเท้าแตะที่วางไว้ให้ทุกวันเมื่อ กลับถึงบ้านน้ำช าที่ชงไว้ให้ ร่มที่วางหน้าประตูย ามฝนตก ล้วนแล้วแต่เป็นความรักความใส่ใจของเมตต า แต่ผมกลับไม่เคยเห็น ไม่รู้จักเอาใจเขาใส่ใจเราคิดแล้วก็ละอาย รีบยกช ามเกี๊ยวมาให้เมตต า เธอ กินก่อนเถอะ เธอหัวเราะ ไม่ต้องมาทำไก๋ต่อหน้าพ่อ กับแม่ พ่อก็หัวเราะ ถ้าทำไก๋ อ ย่ า ง นี้

ได้ทั้งชีวิตก็ถือว่าเป็นสามีที่ดีนะลูก ในใจมีรัก ความรักนั้นต้องให้กันและกัน เราพึงใส่ใจอีกครึ่ง ของเราอย่ าคิดว่าทุกปัญหา เป็นการหาเรื่องโดยไร้เหตุผล ลองคิดถึงความผิดของตนดู ใช้ชีวิตธรรมดาของตนให้ดี ใส่ใจคนในครอบครัว อย่ ามัวแต่สนใจเรื่องของคนอื่นความสุข ไม่ได้อยู่ที่บ้านใหญ่เพียงใด แต่อยู่ที่เสียงหัวเราะ ในบ้านหวานแค่ไหนความสุข ไม่ใช่ได้ขับรถหรูเพียงใด

แต่อยู่ที่ขับรถกลับ ถึงบ้านได้ปลอ ด ภั ย ความสุข ไม่ใช่มีคนรักสวย แต่อยู่ที่รอยยิ้มของคนรักสดใส เพียงใดความสุข ไม่ได้อยู่ที่ได้ฟังคำหวาน มาก หรือน้อยแต่อยู่ที่ย ามโศกเศร้าเสียใจ มีคนบอ กฉันว่า ไม่เป็นไรยังมีฉันอยู่ อย่ ามัวแต่สนใจเรื่องของคนอื่นในโลกโซเชียล จนห่างเหินกับคนในครอบครัวนะครับ

ที่มา chit-in, staylifeth, sit-smiling